อัตราส่วนทางการเงินที่สำคัญ

อัตราส่วนทางการเงิน 2566 2565 2564 2563 2562
อัตราส่วนสภาพคล่อง
อัตราส่วนสภาพคล่อง (เท่า) 5.36 3.12 5.12 4.30 4.38
อัตราส่วนสภาพคล่องหมุนเร็ว (เท่า) 1.95 3.94 3.00 2.65
อัตราส่วนสภาพคล่องกระแสเงินสด (เท่า) 0.14 0.55 0.87 1.15
อัตราส่วนหมุนเวียนลูกหนี้การค้า (เท่า) 15.86 11.85 13.19 29.36
ระยะเวลาเก็บหนี้เฉลี่ย (วัน) 23 30 27 12
อัตราส่วนหมุนเวียนสินค้าคงเหลือ (เท่า) 1.38 1.28 1.25 1.68
ระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ย (วัน) 196 257 280 287 215
อัตราส่วนหมุนเวียนสินค้าสำเร็จรูป (เท่า) 2.07 1.77 1.66 2.15
ระยะเวลาขายสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ย (วัน) 174 204 217 168
อัตราส่วนหมุนเวียนเจ้าหนี้ (เท่า) 4.77 6.60 6.39 7.24
ระยะเวลาชำระหนี้ (วัน) 76 55 56 50
วงจรเงินสด (วัน) 209 256 258 177
อัตราส่วนแสดงความสามารถในการหากำไร
อัตรากำไรขั้นต้น % 48.88% 49.53% 43.89% 54.08% 60.44%
อัตรากำไรจากการดำเนินงาน % (25.90%) (26.73%) (12.44%) 13.81%
อัตราส่วนเงินสดต่อการทำกำไร % (14.79%) (71.19%) (128.21%) 118.29%
อัตราส่วนกำไรสุทธิ % (18.52%) (19.61%) (13.33%) 11.51%
อัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น % (6.69%) (9.15%) (9.96%) (10.90%) 19.12%
อัตราส่วนแสดงประสิทธิภาพในการดำเนินงาน
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ % (5.26%) (7.23%) (7.86%) (8.75%) 15.04%
อัตราผลตอบแทนจากสินทรัพย์ถาวร % (34.49%) (38.44%) (34.28%) 112.75%
อัตราการหมุนของสินทรัพย์ (เท่า) 0.39 0.40 0.66 1.31
อัตราส่วนวิเคราะห์นโยบายการเงิน
อัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (เท่า) 0.27 0.26 0.28 0.22
อัตราส่วนความสามารถชำระดอกเบี้ย (เท่า) 3.21 12.53 18.29 -
อัตราส่วนความสามารถชำระภาระผูกพัน (เท่า) 1.70 0.39 0.48 0.56
อัตราการจ่ายเงินปันผล % - - - - 91.41%
อัตรากำไรสุทธิต่อหุ้น* (บาท) (0.02) (0.02) (0.03) (0.03) 0.08

งบการเงิน

ปี 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 3 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 2 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 1 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 3 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
ไตรมาส 2 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
ไตรมาส 1 2566
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน
ปี 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 3 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 2 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 1 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 3 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 2 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 1 2565
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ปี 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 4 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ปี 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 4 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2563
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ปี 2562
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2562
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2562
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



ไตรมาส 1 2562
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 4 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2564
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ปี 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 4 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 3 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 2 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

ไตรมาส 1 2561
งบการเงิน
รายงานผู้สอบบัญชี
หมายเหตุประกอบงบการเงิน



 

คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ENG

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2566

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 และปี 2564 เท่ากับ 13.37 ล้านบาท และ 76.67 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2565 และปี 2564 มียอดได้มา 36.58 ล้านบาท และใช้ไป 130.02 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆ ลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2565 และปี 2564 มียอดใช้ไปจำนวน 44.42 ล้านบาท และ 64.61 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า 2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง ในปี 2565 และปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 3.12 เท่าและ 5.12 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทในช่วง ปี 2565 และปี 2564 เท่ากับ 209 วัน และ 256 วัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวน 191.44 ล้านบาท และ 200.49 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย
  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวนรวมเท่ากับ 35.71 ล้านบาท และ 38.90 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.98 และร้อยละ 3.99 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 76 วัน และ 55 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าลดลงในปี 2565 ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการวางแผนในการสั่งผลิตเพื่อสอดคล้องกับยอดการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวนเท่ากับ 24.35 ล้านบาท และ 33.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.71 และร้อยละ 3.41 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ
3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวน 705.93 ล้านบาท และ 773.61 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2565 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2564 เนื่องจากการลดทุนจดทะเบียนจากหุ้นสามัญซื้อคืนที่ครบกำหนดและไม่ได้ออกจำหน่ายหุ้นสามัญ ตามที่ประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ได้มีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนจากหุ้นสามัญซื้อคืนที่ครบกำหนดและไม่ได้ออกจำหน่ายหุ้นสามัญ จำนวน 12,675,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงิน 1,267,500.00 บาท โดยได้จดทะเบียนการลดทุนดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 จากการลดทุนดังกล่าวบริษัทฯ ได้นำจำนวนการลดทุน 1,267,500.00 บาท ไปลดกับหุ้นสามัญซื้อคืนจำนวน 99,690,176.42 บาท และสำรองหุ้นซื้อคืนในจำนวนเดียวกัน ส่วนที่เหลือจำนวน 98,422,676.42 บาท โอนไปลดส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญทั้งจำนวน ในปี 2565 ที่ประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติอนุมัติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิตามงบการเงินเป็นจำนวน 80.77 ล้านบาท ดังนั้น บริษัท จึงเสนอการงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 นี้ ทั้งนี้ตามกฎหมาย บริษัทต้องจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกำไรสุทธิจนกว่าทุนสำรองนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2566

รายได้รวม
สำหรับปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้รวม 440.97 ล้านบาท ประกอบด้วย
  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 47.16
  • ช่องทางต่างประเทศมีจำนวนเท่ากับร้อยละ 32.88
  • การจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 8.24
  • การจำหน่ายผ่านช่องทางเจเนอรัลเทรด มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 1.23
  • การจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ช มีจำนวนเท่ากับร้อยละ 8.83
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2566 และปี 2565 มีจำนวนเท่ากับ 221.67 ล้านบาท และ 177.85 ล้านบาท ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2566 สูเพิ่มขึ้นกว่าปี 2565 คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 48.88 และร้อยละ 49.53 ตามลำดับ
บริษัทมีกำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับงวดในปี 2566 และปี 2565 เป็นจำนวน (45.67) ล้านบาท และ (67.68) ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ (10.36) และร้อยละ (18.52) ตามลำดับ

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2565 และปี 2564 เท่ากับ 13.37 ล้านบาท และ 76.67 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2565 และปี 2564 มียอดได้มา 36.58 ล้านบาท และใช้ไป 130.02 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆ ลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2565 และปี 2564 มียอดใช้ไปจำนวน 44.42 ล้านบาท และ 64.61 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า 2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง ในปี 2565 และปี 2564 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 3.12 เท่าและ 5.12 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทในช่วง ปี 2565 และปี 2564 เท่ากับ 209 วัน และ 256 วัน ตามลำดับ อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน
3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวน 191.44 ล้านบาท และ 200.49 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย
  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวนรวมเท่ากับ 35.71 ล้านบาท และ 38.90 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.98 และร้อยละ 3.99 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 76 วัน และ 55 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าลดลงในปี 2565 ส่วนหนึ่งเนื่องจากมีการวางแผนในการสั่งผลิตเพื่อสอดคล้องกับยอดการสั่งซื้อสินค้าของลูกค้า
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวนเท่ากับ 24.35 ล้านบาท และ 33.24 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 2.71 และร้อยละ 3.41 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ
3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2565 และสิ้นปี 2564 มีจำนวน 705.93 ล้านบาท และ 773.61 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2565 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2564 เนื่องจากการลดทุนจดทะเบียนจากหุ้นสามัญซื้อคืนที่ครบกำหนดและไม่ได้ออกจำหน่ายหุ้นสามัญ ตามที่ประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 มกราคม 2565 ได้มีมติอนุมัติลดทุนจดทะเบียนจากหุ้นสามัญซื้อคืนที่ครบกำหนดและไม่ได้ออกจำหน่ายหุ้นสามัญ จำนวน 12,675,000 หุ้นมูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.10 บาท เป็นจำนวนเงิน 1,267,500.00 บาท โดยได้จดทะเบียนการลดทุนดังกล่าวกับกระทรวงพาณิชย์เมื่อวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 จากการลดทุนดังกล่าวบริษัทฯ ได้นำจำนวนการลดทุน 1,267,500.00 บาท ไปลดกับหุ้นสามัญซื้อคืนจำนวน 99,690,176.42 บาท และสำรองหุ้นซื้อคืนในจำนวนเดียวกัน ส่วนที่เหลือจำนวน 98,422,676.42 บาท โอนไปลดส่วนเกินมูลค่าหุ้นสามัญทั้งจำนวน ในปี 2565 ที่ประชุมกรรมการบริษัทเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2565 ได้มีมติอนุมัติงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการประจำปี 2564 เนื่องจากผลการดำเนินงานสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 บริษัทมีผลประกอบการขาดทุนสุทธิตามงบการเงินเป็นจำนวน 80.77 ล้านบาท ดังนั้น บริษัท จึงเสนอการงดจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 2564 นี้ ทั้งนี้ตามกฎหมาย บริษัทต้องจัดสรรกำไรสุทธิประจำปีไว้เป็นทุนสำรองไม่น้อยกว่าร้อยละห้าของกำไรสุทธิจนกว่าทุนสำรองนี้จะมีจำนวนไม่น้อยกว่าร้อยละสิบของทุนจดทะเบียนตามที่กฎหมายกำหนด

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565

รายได้รวม
สำหรับปี 2565 บริษัทฯ มีรายได้รวม 365.46 ล้านบาท ประกอบด้วย
  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก มีจำนวนเท่ากับ 176.61 ล้านบาท หรือร้อยละ 48.33
  • ช่องทางต่างประเทศมีจำนวนเท่ากับ 117.18 ล้านบาท หรือร้อยละ 32.06
  • การจำหน่ายผ่านช่องทางโมเดิร์นเทรด มีจำนวนเท่ากับ 23.42 ล้านบาท หรือร้อยละ 6.41 การจำหน่ายผ่านช่องทางเจเนอรัลเทรด มีจำนวนเท่ากับ 4.48 ล้านบาท หรือร้อยละ 1.23
  • การจำหน่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ช มีจำนวนเท่ากับ 30.69 ล้านบาทหรือร้อยละ 8.40
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2565 และปี 2564 มีจำนวนเท่ากับ 177.85 ล้านบาท และ 223.02 ล้านบาท ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2565 สูงกว่าปี 2564 คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 49.53 และร้อยละ 43.89 ตามลำดับ เนื่องจากในปี 2564 ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย
  • เนื่องจากบริษัทไม่มีนโยบายการผลิตสินค้าด้วยตนเอง ดังนั้นองค์ประกอบหลักของต้นทุนขายจึงได้แก่ ต้นทุนการสั่งผลิตสินค้า คิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ยมากกว่าร้อยละ 98 ของต้นทุนรวม สัดส่วนดังกล่าวค่อนข้างคงที่ในแต่ละปีเนื่องจากราคาสั่งผลิตมีความผันผวนค่อนข้างน้อย โดยบริษัทจะวางแผนการสั่งผลิตและการออกผลิตภัณฑ์ใหม่เป็นรายปี ทำให้บริษัทมีความยืดหยุ่นในการปรับแผนการกำหนดราคาขายให้สอดคล้องกับต้นทุนการสั่งผลิต ส่วนต้นทุนขายอื่นๆ ประกอบด้วยค่าขนส่งสินค้า ค่าภาษีและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในการนำเข้า คิดเป็นสัดส่วนโดยเฉลี่ยรวมประมาณร้อยละ 2.09 ของต้นทุนขายรวม
บริษัทมีกำไร (ขาดทุน) สุทธิสำหรับงวดในปี 2565 และปี 2564 เป็นจำนวน (67.68) ล้านบาท และ (80.77) ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิร้อยละ (18.52) และร้อยละ (19.61) ตามลำดับ ทั้งนี้ กำไร (ขาดทุน) สุทธิของบริษัทลดลง มาจากยอดรายได้และกำไรขั้นต้นที่ลดลง แต่บริษัทยังคงมีความสามารถในการควบคุมค่าใช้จ่ายได้ดี

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564

สินทรัพย์

 

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด

กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 เท่ากับ 76.67 ล้านบาท และ 159.64 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไป 130.02 ล้านบาท และได้มา 95.48 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไปจำนวน 64.61 ล้านบาท และ 233.83 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า

2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง

ในปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 5.12 เท่าและ 4.30 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีวงจรเงินสดเท่ากับ 257 วัน และ 258 วัน ตามลำดับ สาเหตุเนื่องมาจากการระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาการชำระหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน

2.3 ระยะการเก็บหนี้ และจ่ายชำระหนี้

บริษัทมีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 31 วัน บริษัทมีการให้เครดิตทางการค้ากับลูกค้าโมเดิร์นเทรด, เจเนอรัลเทรด, ลูกหนี้ค้าส่งต่างประเทศและพนักงานบริษัท และการติดตามเก็บชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพรับชำระเงินได้ตรงตามเวลาโดยบริษัทยังคงรักษาระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยให้อยู่ในระดับ 31 วัน

3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 200.49 ล้านบาท และ 234.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย

  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนรวมเท่ากับ 38.90 ล้านบาท และ 28.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.99 และร้อยละ 2.65 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 55 วัน และ 56 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2565
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 33.24 ล้านบาท และ 59.29 ล้านบาท ตามลำดับคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.41 และร้อยละ 5.48 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ

3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 773.61 ล้านบาท และ 847.90 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2563 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2564

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2564

รายได้รวม

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โดยช่องทางร้านค้าปลีก ยอดขายในปี 2564 และปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 80 ล้านบาท และ 407.37 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.50 และร้อยละ 51.77 ของรายได้รวม ตามลำดับ
  • ช่องทางต่างประเทศปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 71 ล้านบาท และ 286.92 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ช่องทางคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 13 ล้านบาท และ 44.65 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 44.34
  • การจำหน่ายผ่านช่องอีคอมเมิร์ช ปี 2564 และ2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 85 ล้านบาท และ 34.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.42
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 มี จำนวนเท่ากับ 223.02 ล้านบาท และ 353.28 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.47 และร้อยละ 54.08 ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ต่ำกว่าปี 2563 เนื่องจากในปี 2564 มีการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางที่มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงทำ Promotion clearance sales ด้วย
  • เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย ระยะเวลาสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยที่ 116 วันในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 อยู่ที่ 204 วัน ซึงลดลงจากปีก่อน

บริษัทมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิสำหรับงวดในปี 2564  และปี 2563 เป็นจำนวน -80.77 ล้านบาท และ -104.88 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไร(ขาดทุน)สุทธิร้อยละ -19.61 และร้อยละ -13.33 ตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564 หลักๆ มาจากการที่กิจการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างต่อเนื่อง และเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การจับจ่ายชะลอตัวรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2563

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด

กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 เท่ากับ 76.67 ล้านบาท และ 159.64 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไป 130.02 ล้านบาท และได้มา 95.48 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไปจำนวน 64.61 ล้านบาท และ 233.83 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า

2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง

ในปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 5.12 เท่าและ 4.30 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีวงจรเงินสดเท่ากับ 257 วัน และ 258 วัน ตามลำดับ สาเหตุเนื่องมาจากการระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาการชำระหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน

2.3 ระยะการเก็บหนี้ และจ่ายชำระหนี้

บริษัทมีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 31 วัน บริษัทมีการให้เครดิตทางการค้ากับลูกค้าโมเดิร์นเทรด, เจเนอรัลเทรด, ลูกหนี้ค้าส่งต่างประเทศและพนักงานบริษัท และการติดตามเก็บชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพรับชำระเงินได้ตรงตามเวลาโดยบริษัทยังคงรักษาระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยให้อยู่ในระดับ 31 วัน

3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 200.49 ล้านบาท และ 234.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย

  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนรวมเท่ากับ 38.90 ล้านบาท และ 28.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.99 และร้อยละ 2.65 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 55 วัน และ 56 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2565
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 33.24 ล้านบาท และ 59.29 ล้านบาท ตามลำดับคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.41 และร้อยละ 5.48 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ

3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 773.61 ล้านบาท และ 847.90 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2563 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2564

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563

รายได้รวม

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โดยช่องทางร้านค้าปลีก ยอดขายในปี 2564 และปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 80 ล้านบาท และ 407.37 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.50 และร้อยละ 51.77 ของรายได้รวม ตามลำดับ
  • ช่องทางต่างประเทศปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 71 ล้านบาท และ 286.92 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ช่องทางคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 13 ล้านบาท และ 44.65 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 44.34
  • การจำหน่ายผ่านช่องอีคอมเมิร์ช ปี 2564 และ2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 85 ล้านบาท และ 34.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.42
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 มี จำนวนเท่ากับ 223.02 ล้านบาท และ 353.28 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.47 และร้อยละ 54.08 ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ต่ำกว่าปี 2563 เนื่องจากในปี 2564 มีการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางที่มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงทำ Promotion clearance sales ด้วย
  • เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย ระยะเวลาสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยที่ 116 วันในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 อยู่ที่ 204 วัน ซึงลดลงจากปีก่อน

บริษัทมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิสำหรับงวดในปี 2564  และปี 2563 เป็นจำนวน -80.77 ล้านบาท และ -104.88 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไร(ขาดทุน)สุทธิร้อยละ -19.61 และร้อยละ -13.33 ตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564 หลักๆ มาจากการที่กิจการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างต่อเนื่อง และเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การจับจ่ายชะลอตัวรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2562

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด

กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 เท่ากับ 76.67 ล้านบาท และ 159.64 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไป 130.02 ล้านบาท และได้มา 95.48 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไปจำนวน 64.61 ล้านบาท และ 233.83 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า

2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง

ในปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 5.12 เท่าและ 4.30 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีวงจรเงินสดเท่ากับ 257 วัน และ 258 วัน ตามลำดับ สาเหตุเนื่องมาจากการระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาการชำระหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน

2.3 ระยะการเก็บหนี้ และจ่ายชำระหนี้

บริษัทมีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 31 วัน บริษัทมีการให้เครดิตทางการค้ากับลูกค้าโมเดิร์นเทรด, เจเนอรัลเทรด, ลูกหนี้ค้าส่งต่างประเทศและพนักงานบริษัท และการติดตามเก็บชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพรับชำระเงินได้ตรงตามเวลาโดยบริษัทยังคงรักษาระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยให้อยู่ในระดับ 31 วัน

3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 200.49 ล้านบาท และ 234.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย

  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนรวมเท่ากับ 38.90 ล้านบาท และ 28.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.99 และร้อยละ 2.65 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 55 วัน และ 56 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2565
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 33.24 ล้านบาท และ 59.29 ล้านบาท ตามลำดับคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.41 และร้อยละ 5.48 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ

3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 773.61 ล้านบาท และ 847.90 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2563 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2564

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2562

รายได้รวม

สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ประกอบด้วย

  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โดยช่องทางร้านค้าปลีก ยอดขายในปี 2564 และปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 80 ล้านบาท และ 407.37 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.50 และร้อยละ 51.77 ของรายได้รวม ตามลำดับ
  • ช่องทางต่างประเทศปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 71 ล้านบาท และ 286.92 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ช่องทางคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 13 ล้านบาท และ 44.65 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 44.34
  • การจำหน่ายผ่านช่องอีคอมเมิร์ช ปี 2564 และ2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 85 ล้านบาท และ 34.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.42
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 มี จำนวนเท่ากับ 223.02 ล้านบาท และ 353.28 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.47 และร้อยละ 54.08 ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ต่ำกว่าปี 2563 เนื่องจากในปี 2564 มีการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางที่มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงทำ Promotion clearance sales ด้วย
  • เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย ระยะเวลาสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยที่ 116 วันในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 อยู่ที่ 204 วัน ซึงลดลงจากปีก่อน

บริษัทมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิสำหรับงวดในปี 2564  และปี 2563 เป็นจำนวน -80.77 ล้านบาท และ -104.88 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไร(ขาดทุน)สุทธิร้อยละ -19.61 และร้อยละ -13.33 ตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564 หลักๆ มาจากการที่กิจการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างต่อเนื่อง และเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การจับจ่ายชะลอตัวรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2561

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 เท่ากับ 76.67 ล้านบาท และ 159.64 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไป 130.02 ล้านบาท และได้มา 95.48 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไปจำนวน 64.61 ล้านบาท และ 233.83 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า 2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง ในปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 5.12 เท่าและ 4.30 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีวงจรเงินสดเท่ากับ 257 วัน และ 258 วัน ตามลำดับ สาเหตุเนื่องมาจากการระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาการชำระหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2.3 ระยะการเก็บหนี้ และจ่ายชำระหนี้ บริษัทมีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 31 วัน บริษัทมีการให้เครดิตทางการค้ากับลูกค้าโมเดิร์นเทรด, เจเนอรัลเทรด, ลูกหนี้ค้าส่งต่างประเทศและพนักงานบริษัท และการติดตามเก็บชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพรับชำระเงินได้ตรงตามเวลาโดยบริษัทยังคงรักษาระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยให้อยู่ในระดับ 31 วัน
3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 200.49 ล้านบาท และ 234.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย
  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนรวมเท่ากับ 38.90 ล้านบาท และ 28.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.99 และร้อยละ 2.65 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 55 วัน และ 56 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2565
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 33.24 ล้านบาท และ 59.29 ล้านบาท ตามลำดับคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.41 และร้อยละ 5.48 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ
3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 773.61 ล้านบาท และ 847.90 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2563 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2564

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2561

รายได้รวม
สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ประกอบด้วย
  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โดยช่องทางร้านค้าปลีก ยอดขายในปี 2564 และปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 80 ล้านบาท และ 407.37 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.50 และร้อยละ 51.77 ของรายได้รวม ตามลำดับ
  • ช่องทางต่างประเทศปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 71 ล้านบาท และ 286.92 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ช่องทางคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 13 ล้านบาท และ 44.65 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 44.34
  • การจำหน่ายผ่านช่องอีคอมเมิร์ช ปี 2564 และ2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 85 ล้านบาท และ 34.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.42
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 มี จำนวนเท่ากับ 223.02 ล้านบาท และ 353.28 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.47 และร้อยละ 54.08 ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ต่ำกว่าปี 2563 เนื่องจากในปี 2564 มีการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางที่มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงทำ Promotion clearance sales ด้วย
  • เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย ระยะเวลาสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยที่ 116 วันในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 อยู่ที่ 204 วัน ซึงลดลงจากปีก่อน
บริษัทมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิสำหรับงวดในปี 2564  และปี 2563 เป็นจำนวน -80.77 ล้านบาท และ -104.88 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไร(ขาดทุน)สุทธิร้อยละ -19.61 และร้อยละ -13.33 ตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564 หลักๆ มาจากการที่กิจการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างต่อเนื่อง และเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การจับจ่ายชะลอตัวรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564

ฐานะการเงินของบริษัท ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2560

สินทรัพย์

2.1 สภาพคล่องกระแสเงินสด กระแสเงินสดได้มาจากกิจกรรมดำเนินงานของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 เท่ากับ 76.67 ล้านบาท และ 159.64 ล้านบาท ตามลำดับ กระแสเงินสดจากกิจกรรมการลงทุนปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไป 130.02 ล้านบาท และได้มา 95.48 ล้านบาท ตามลำดับ หลักๆลดลงเนื่องจากเงินลงทุนชั่วคราว, และมีการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรอันได้แก่การก่อสร้างอาคาร การซื้ออุปกรณ์และเครื่องตกแต่งสำนักงาน และการลงทุนซื้อโปรแกรมคอมพิวเตอร์สำหรับใช้ในการบริหารงาน สำหรับกระแสเงินสดจากกิจกรรมการจัดหาเงินในปี 2564 และปี 2563 มียอดใช้ไปจำนวน 64.61 ล้านบาท และ 233.83 ล้านบาท ตามลำดับ ซึ่งเป็นการจ่ายชำระหนี้สินตามสัญญาเช่า 2.2 อัตราส่วนสภาพคล่อง ในปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีอัตราส่วนสภาพคล่องเท่ากับ 5.12 เท่าและ 4.30 เท่า ตามลำดับ ซึ่งอยู่ในเกณฑ์ที่ดี เนื่องจากบริษัทมีการดำรงเงินสดจากการดำเนินงานไว้ค่อนข้างมาก เมื่อพิจารณาจากวงจรเงินสด จะเห็นได้ว่าวงจรเงินสดของบริษัทมีระยะเวลาเพิ่มขึ้น โดยในช่วง ปี 2564 และปี 2563 บริษัทมีวงจรเงินสดเท่ากับ 257 วัน และ 258 วัน ตามลำดับ สาเหตุเนื่องมาจากการระยะเวลาขายสินค้าเฉลี่ยเพิ่มขึ้นและระยะเวลาการชำระหนี้เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามบริษัทยังคงมีสภาพคล่องที่เพียงพอสำหรับการบริหารวงจรเงินสดดังกล่าว จึงทำให้บริษัทไม่มีการพึ่งพาเงินกู้ยืมระยะสั้นจากสถาบันการเงิน 2.3 ระยะการเก็บหนี้ และจ่ายชำระหนี้ บริษัทมีระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยเท่ากับ 31 วัน บริษัทมีการให้เครดิตทางการค้ากับลูกค้าโมเดิร์นเทรด, เจเนอรัลเทรด, ลูกหนี้ค้าส่งต่างประเทศและพนักงานบริษัท และการติดตามเก็บชำระหนี้ที่มีประสิทธิภาพรับชำระเงินได้ตรงตามเวลาโดยบริษัทยังคงรักษาระยะเวลาในการเก็บหนี้เฉลี่ยให้อยู่ในระดับ 31 วัน
3.1 หนี้สินรวมของบริษัท ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 200.49 ล้านบาท และ 234.35 ล้านบาท ตามลำดับ โดยมีหนี้สินหมุนเวียนที่สำคัญของบริษัทประกอบด้วย
  • เจ้าหนี้การค้า ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนรวมเท่ากับ 38.90 ล้านบาท และ 28.72 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.99 และร้อยละ 2.65 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ โดยมีระยะเวลาชำระหนี้เท่ากับ 55 วัน และ 56 วัน ตามลำดับ เจ้าหนี้การค้าเพิ่มขึ้นในปี 2564 เนื่องจากบริษัทมีการซื้อสินค้าเพิ่มมากขึ้น เพื่อเตรียมสินค้าสำหรับการจำหน่ายในไตรมาส 1 ปี 2565
  • เจ้าหนี้อื่น ประกอบด้วยค่าใช้จ่ายค้างจ่าย เจ้าหนี้กรมสรรพากร เจ้าหนี้ค่าทรัพย์สิน ฯลฯ ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 33.24 ล้านบาท และ 59.29 ล้านบาท ตามลำดับคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 3.41 และร้อยละ 5.48 ของสินทรัพย์รวม ตามลำดับ
3.2 ส่วนของผู้ถือหุ้น ณ สิ้นปี 2564 และสิ้นปี 2563 มีจำนวน 773.61 ล้านบาท และ 847.90 ล้านบาท ตามลำดับ ปี 2564 ส่วนของผู้ถือหุ้นลดลงจากปี 2563 เนื่องจากมีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิสำหรับปี 2564

ผลการดำเนินงานสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2560

รายได้รวม
สำหรับปี 2564 บริษัทฯ มีรายได้รวม 411.82 ล้านบาท ประกอบด้วย
  • รายได้จากการขายหลักของบริษัท มาจากการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ผ่านช่องทางร้านค้าปลีก โดยช่องทางร้านค้าปลีก ยอดขายในปี 2564 และปี 2563 มีจำนวนเท่ากับ 80 ล้านบาท และ 407.37 ล้านบาท ตามลำดับ คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 40.50 และร้อยละ 51.77 ของรายได้รวม ตามลำดับ
  • ช่องทางต่างประเทศปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 71 ล้านบาท และ 286.92 ล้านบาท ตามลำดับ
  • ช่องทางคอนซูมเมอร์โปรดักส์ ปี 2564 และ 2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 13 ล้านบาท และ 44.65 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตราการเติบโตลดลงร้อยละ 44.34
  • การจำหน่ายผ่านช่องอีคอมเมิร์ช ปี 2564 และ2563 มีรายได้รวมเป็นจำนวน 85 ล้านบาท และ 34.92 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 28.42
  • ต้นทุนขายของบริษัทในปี 2564 และปี 2563 มี จำนวนเท่ากับ 223.02 ล้านบาท และ 353.28 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 42.47 และร้อยละ 54.08 ตามลำดับ
  • อัตรากำไรขั้นต้นในปี 2564 ต่ำกว่าปี 2563 เนื่องจากในปี 2564 มีการทำโปรโมชั่นที่เพิ่มมากขึ้นเพื่อกระตุ้นยอดขาย และเพื่อแข่งขันกับคู่แข่งรายอื่นๆในกลุ่มธุรกิจเครื่องสำอางที่มีสภาวะการแข่งขันที่รุนแรง รวมถึงทำ Promotion clearance sales ด้วย
  • เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 จึงเกิดการชะลอตัวของยอดขายทำให้สินค้าบางส่วนระบายออกช้าและหมดอายุ บริษัทต้องตั้งค่าเผื่อสินค้าเสื่อมสภาพ (Stock Provision) เพื่อรักษาคุณภาพของสินค้าที่จะถูกส่งออกไปจำหน่าย ระยะเวลาสินค้าสำเร็จรูปเฉลี่ยที่ 116 วันในปี 2564 ซึ่งในปี 2563 อยู่ที่ 204 วัน ซึงลดลงจากปีก่อน
บริษัทมีกำไร(ขาดทุน)สุทธิสำหรับงวดในปี 2564  และปี 2563 เป็นจำนวน -80.77 ล้านบาท และ -104.88 ล้านบาทตามลำดับ คิดเป็นอัตรากำไร(ขาดทุน)สุทธิร้อยละ -19.61 และร้อยละ -13.33 ตามลำดับ ทั้งนี้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564 หลักๆ มาจากการที่กิจการปรับโครงสร้างธุรกิจ ลดต้นทุน ควบคุมค่าใช้จ่าย อย่างต่อเนื่อง และเป็นผลกระทบต่อเนื่องมาจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลต่อยอดขายทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ประกอบกับกำลังซื้อของผู้บริโภคที่อ่อนตัวลง และจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ การจับจ่ายชะลอตัวรวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยวลดลง ส่งผลให้ผลประกอบการของบริษัทมีการเติบโตที่ลดลงในปี 2564