แนวคิดร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ Shop License

ร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ เป็นร้านค้าที่ใกล้ชิดกับกลุ่มลูกค้าอย่างมากและเป็นที่รู้จักอย่างต่อเนื่องมากกว่า 10 ปี เริ่มต้นกระจายสาขาด้วยการให้สิทธิในการเปิดร้าน เริ่มมีมาตั้งแต่เริ่มก่อตั้งร้านครั้งแรก แต่ในช่วงระยะหลังจะเป็นการให้สิทธิในต่างประเทศ เช่น เวียดนาม กัมพูชา มาเลเซีย เป็นต้น ทั้งนี้ประเทศไทยจะเรียกการลงทุนเป็นระบบแฟรนไชส์ (Franchise) เนื่องจากนโยบายในช่วงนั้นจะเน้นการกระจายสาขาจำนวนมาก

หลังจากการขยายตัวธุรกิจในระบบหลายช่องทาง เช่น ช่องทางโมเดิร์นเทรดที่ขายสินค้าเฉพาะกลุ่มห้างร้านที่เป็นระบบสาขา การขายผ่านช่องทางจัดจำหน่ายทั่วไปโดยปลายทางคือการขายสินค้าเข้าร้านค้าปลีกขนาดเล็ก ผ่านการบริหารการกระจายสินค้าด้วยตัวแทน หรือ Distributor รวมถึงการพัฒนาการตลาดในต่างประเทศที่มีมากกว่า 15 ประเทศ จึงมีการนำนโยบายการให้สิทธิ์การลงทุนในร้านค้าปลีกของบิวตี้ บุฟเฟต์ กลับมาใช้โดยเป็นรูปแบบ Shop License

สำหรับการขยายสาขาโดยการให้สิทธิ์ผู้ลงทุนในรูปแบบที่เรียกว่า Shop License นั้นเป็นการให้สิทธิ์ที่มีจำนวนจำกัด ไม่เน้นสาขาจำนวนมาก โดยมุ่งการสร้างธุรกิจที่มีตลาดรองรับจริง สามารถสร้างกำไรและมีผลทางธุรกิจมากกว่าธุรกิจประเภทอื่น ร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ จะได้รับการอนุมัติการเปิดนั้น จะต้องมีการศึกษาความเป็นไปได้ทางธุรกิจชัดเจน และมีการวางแผนการตลาด การสนับสนุนธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันการบริหารจัดการสาขาของส่วนกลางหรือ สำนักงานใหญ่ Beauty Community Public Company Limited นั้นเป็นการบริหารจัดการระดับสากล มีมาตรฐานและทีมงานทุกด้าน ที่จะทำให้ธุรกิจทั้งร้านสาขาของบริษัท และร้านสาขาของนักลงทุนที่ได้รับสิทธ์สามารถดำเนินไปได้อย่างมั่นคง

ระบบการให้สิทธิ์การเปิดร้านค้าในรูปแบบ Shop License จึงเป็นการให้สิทธิ์ ที่มีจำนวนจำกัดมีความเป็น Exclusive หรือการให้สิทธิ์พิเศษมากขึ้น เน้นการคัดเลือกและเปิดสาขาที่ไม่เกิดการแข่งขันกันเอง สร้างตลาดและการรับรู้ในตราสินค้าที่สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับกลุ่มเป้าหมาย สินค้าที่จัดจำหน่ายสาขาจะแตกต่างจากช่องทางการจัดจำหน่ายช่องทางอื่น หรือมีครบสินค้ามากกว่า เน้นสินค้าที่ผู้บริโภคใช้ประจำวันได้ ในทำเลการจับจ่ายที่สะดวก

การบริหารจัดการ ผู้รับสิทธิ์จะเป็นเจ้าของสาขาที่ได้รับสิทธิ์ แต่จะบริหารร่วมกับการสนับสนุนด้านต่างๆจาก สำนักงานใหญ่ ที่มีทีมงานบริหารจัดการสาขา คอยเป็นผู้ช่วย นอกจากนั้นผู้รับสิทธิ์จะได้รับการถ่ายทอดการจัดการ บริหารร้าน บริหารทีมงาน รวมถึงการบริหารสินค้าที่มีทีมงานสำนักงานใหญ่คอยสนับสนุน การบริหารจัดการด้านการตลาด และการช่วยเหลือในระบบบัญชีต่างๆ ซึ่งด้วยรูปแบบการบริหารจัดการดังกล่าวจะช่วยให้ผู้รับสิทธิ์ลดความเสี่ยงทางธุรกิจ มีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากขี้น

กลุ่มลูกค้าเป้าหมายและตำแหน่งทางการตลาด

กลุ่มลูกค้าของร้านบิวตี้ บุฟเฟต์ จะเป็นกลุ่มผู้หญิงเกือบทุกวัย และเริ่มเน้นการดูแลเรื่องสุขภาพ นอกจากนั้นจะมีกลุ่มสมาชิกที่กระจายตัวอยู่ทั่วประเทศ รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย ภาพรวมของลูกค้าพอสรุปได้ดังนี้

การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของธุรกิจต้นแบบ

Demographic & Geographic

  • วัยรุ่นเพศหญิง
  • อายุระหว่าง 18-47 ปี
  • รายได้ระดับ 12,000-25,000 บาทต่อเดือน
  • อาศัยอยู่ในกรุงเทพฯ-ปริมณฑล

Psychographic

  • ชอบการแต่งหน้า แต่งตัว
  • เครื่องสำอางที่มีราคาไม่แพงจับต้องได้
  • เห็นการรีวิวจาก Social Media
  • Influencer มีผลต่อการตัดสินใจซื้อ

Business Concept นำเสนอความงามผ่านสินค้าและการบริการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในราคาที่สมเหตุสมผล

Beauty Buffet

“บิวตี้ บุฟเฟต์” เป็นแนวคิดในการนำเสนอเครื่องสำอาง การวางรูปแบบร้าน บิวตี้ บุฟเฟต์ ที่มีสินค้าหลากหลายให้เลือกสรร มุ่งเน้นการตกแต่งที่มีสีสันโดดเด่นและการให้บริการที่เป็นกันเองเพื่อให้ลูกค้าสามารถทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ได้อย่างเต็มที่ก่อนที่จะทำาการตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมที่สุดสำหรับตนเอง ผลิตภัณฑ์ที่จัดจำหน่ายภายใต้ร้าน บิวตี้ บุฟเฟต์ จะถูกนำเสนอด้วย

แบรนด์ที่หลากหลาย (Multibrands) โดยแต่ละแบรนด์ได้รับการพัฒนาและจดทะเบียนเครื่องหมายการค้าเป็นของบริษัท รวมทั้งผ่านการคัดสรร กำาหนดเอกลักษณ์ ระดับราคา และตำแหน่งทางการตลาดที่แตกต่างกันเพื่อให้สามารถครอบคลุมและตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่หลากหลาย

Perspective Shop Front
Perspective Interior Design

Core Competency ความเชี่ยวชาญในระบบร้านค้าปลีกที่จัดจำหน่ายเครื่องสำอาง มีระบบการสนับสนุนการจัดจำหน่ายครบวงจร

Competitive Advantage

    • มีตราสินค้าเป็นที่รู้จักอย่างดี จากระยะเวลาในการดำเนินธุรกิจมายาวนาน
    • มีรูปแบบร้านสาขาที่ตอบสนองความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย
    • มีการกำหนดการกระจายสาขาที่เน้นคุณภาพ

เนื่องจากธุรกิจการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำารุงผิวเป็นตลาดที่มีการแข่งขันสูง ทั้งในส่วนของตลาดเครื่องสำอางนำเข้าที่ได้รับลิขสิทธิ์เครื่องหมายการค้าจากต่างประเทศและเครื่องสำอางที่เป็นตราสินค้าของไทยเนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีมูลค่าตลาดสูงรวมทั้งมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ผู้ประกอบการรายย่อยสามารถเริ่มต้นธุรกิจได้ง่าย โดยอาจเริ่มจากการเปิดสาขาหรือศูนย์การจำหน่ายจำนวนน้อยซึ่งใช้เงินลงทุนและเงินทุนหมุนเวียนในเบื้องต้นจำนวนไม่มากนัก ส่งผลให้มีผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาแข่งขันในธุรกิจเป็นจำนวนมาก การแข่งขันที่สูงดังกล่าวส่งผลให้ผู้ประกอบการรายใหม่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ หรือแข่งขันได้น้อย

การดำรงอยู่ในธุรกิจในระยะยาวถือเป็นความท้าทายของผู้ประกอบการรายใหม่ เนื่องจากศักยภาพในการแข่งขันที่สำคัญได้แก่ความได้เปรียบของสถานที่จำหน่ายและการสร้างเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และแบรนด์ให้เป็นที่จดจำของผู้บริโภค การสร้างความน่าสนใจให้กับผลิตภัณฑ์จำเป็นต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญในธุรกิจ ดังนั้นผู้ประกอบการรายย่อยจำานวนมากในอุตสาหกรรมการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางและบำรุงผิวจึงมีขนาดค่อนข้างเล็กและมีการกระจายสินค้าอยู่ในวงจำกัด

การเปิดร้านภายใต้การให้สิทธิของบิวตี้ บุฟเฟต์ จึงเป็นทางเลือกที่สามารถให้ความมั่นคงได้มากกว่า รวมถึงแนวโน้มการสร้างความสำเร็จให้กับผู้ประกอบการรายเล็กที่จะได้รับความรู้ในการดำเนินธุรกิจ รวมถึงระบบการจัดการที่เป็นสากล จะช่วยให้ลดความเสี่ยงด้านต่างๆและเพิ่มโอกาสในการประสบความเร็จได้อย่างดี

Brand Communication
“For Every Beauty” เพราะความสวยคือคุณ

KEY DRIVEN

MODERN

  • Lifestyle

การหาสินค้า และการบริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าอย่างต่อเนื่องและไม่หยุดนิ่ง เช่น การใช้ BA (Beauty Advisor) แนะนำสินค้าที่ลูกค้าต้องการและการมี Tips. How to Perfect Beauty. ออกมาเป็นประจำทุกๆ สัปดาห์ ตลอดจนการตั้งราคาและทำโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้าที่ต้องการใช้สินค้าที่ดีและราคาถูก

  • Innovation

การพัฒนาสินค้าโดยใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง นักวิชาการและพันธมิตรทางธุรกิจ รวมกับศิลปะด้านการแต่งหน้าจาก Make Up Artist.

PRODUCT

  • Make Up

เครื่องสำอาง สกินแคร์ เมคอัพ และอุปกรณ์ แต่งหน้าให้สวยแบบดาราด้วยตนเอง

  • Herbal Cosmetic

เน้นสินค้าที่มาจากธรรมชาติ การใช้ส่วนผสมที่มีคุณภาพ

  • Medical Cosmetic

เครื่องสำอางกลุ่มเวชสำอางที่ใช้ความรู้วิทยาศาสตร์เครื่องสำอาง

  • Variety

สินค้าที่จำหน่ายต้องมีความหลากหลาย ตอบสนองทุกความต้องการของลูกค้า ซึ่งสินค้าอาจจะมาจากโรงงานของตัวเอง หรือจากพันธมิตรทางธุรกิจ

SAFETY

  • ไม่มีสารปรอท และสารอันตรายที่เป็นสารต้องห้าม

สินค้าทุกชิ้นภายในร้าน Beauty Buffet ต้องไม่มีสารที่เป็นพิษต่อการใช้งาน โดยสินค้าต้องมีมาตรฐานรับรองอย่างชัดเจน

  • มาตรฐานการผลิต

โรงงานที่เป็นผู้ผลิตสินค้าทั้งหมดต้องได้รับการรับรองมาตรฐานการผลิตทุกขั้นตอน จากหน่วยงานที่มีความน่าเชื่อถือ

กลยุทธ์การขยายธุรกิจ เป้าหมาย (Goal) 

เป้าหมายระยะสั้น (1-2 ปี)

  • ขยายธุรกิจ  = Shop License 18 สาขา+ สาขาบริษัท  รวม 28 สาขา
    = สาขาของบริษัทเดิมที่มีอยู่ 50 สาขา
    = รวมมีสาขาทั้งหมด 78 สาขา 
  • พัฒนาระบบการขายสินค้าผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์
  • พัฒนาทีมงานบริหารสาขา และระบบสนับสนุนธุรกิจให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เป้าหมายระยะยาว (ภายใน 5 ปี)

  • ขยายธุรกิจ  = Shop License 68 สาขา+ สาขาบริษัท 40 สาขา รวม 108 สาขา
    = สาขาของบริษัทเดิมที่มีอยู่ 50 สาขา
    = รวมมีสาขาทั้งหมด 158 สาขา 
  • พิจารณาขยายธุรกิจด้วยรูปแบบไลเซ่นส์ หรือพัฒนาระบบตัวแทนจำหน่าย
  • พัฒนาทีมงาน และระบบเพื่อสนับสนุนรูปแบบไลเซ่นส์หรือตัวแทนจำหน่าย

อัตราการขยายสาขาของ Beauty Buffet ไม่ควรเกินความสามารถในการสร้างทีมงาน เพื่อรองรับความสำเร็จของธุรกิจ ดังนั้น จากการคาดการณ์ใน 5 ปี ข้างหน้า Beauty Buffet ตั้งเป้าการขยายสาขาที่บริหารโดยสำนักงานใหญ่จำนวน 51 สาขา ซึ่งจะเป็นสาขาที่ใช้งบประมาณการลงทุนสูง จะเน้นเปิดในห้างใหญ่ หรือในพื้นที่ที่สามารถสร้าง Brand Awareness ได้ เพื่อสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดให้ลูกค้าจดจำ และเพิ่มการขยายสาขาที่เป็นรูปแบบของ

และการขยายโดยในรูปแบบของ Shop License จำนวน 68 สาขา รวมจำนวนสาขาใน 5 ปีแรกที่ 108 สาขารวมสาขาเดิมของบริษัท 50 สาขา จะมีสาขาทั้งหมด 158 สาขา

ติดต่อเจ้าของ Shop License

ชื่อบริษัท บริษัท บิวตี้ คอมมูนิตี้ จำกัด ( มหาชน)

ชื่อผู้บริหาร คุณปิยะวดี จูฑะประชากูล

ชื่อผู้ติดต่อ คุณหทัยวรรณ เกตุรุ่งเรือง

ที่อยู่ : เลขที่ 50/1-3 ซอยนวลจันทร์ 34 แขวงนวลจันทร์ เขตบึงกุ่ม กทม. 10230

โทรศัพท์ 02-9460700-6   

เว็บไซต์ www.beautycommunity.co.th